| สรณะใหม่
|
| ถึงวันนี้
ผมเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ...หันไปทางไหน เจอแต่กลิ่นอายของพิธีบูชาเทวดาอารักษ์
คู่ช้างไม้...กระทรวงคลัง ผมจำไม่ได้ ย้ายที่อยู่ไม่รู้ว่ากี่ครั้ง ครั้งล่า...ทำกันเป็นการเป็นงาน มีพราหมณ์มาทำพิธีบวงสรวง คุณหมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ท่านออกตัวว่า จุดหมายของพิธี ไม่ได้ทำเพื่อให้รัฐบาลมั่นคง แต่ทำเพื่อขอให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมั่นคง ฟังรัฐมนตรีพูดแล้วก็ใจหาย นี่ขนาดคนเป็นแพทย์ วุฒิภาวะเติบโตถึงขั้นบริหารการเงินการ คลังของบ้านเมือง ยังไม่แน่ใจฝีมือฝีไม้ของตัวเองและมนุษย์ด้วยกัน หันไปพึ่งบารมีช้าง... ช้างไม้ที่มนุษย์สลักเสลาขึ้นมาเอง สมมติกันเป็นเทวดากราบไหว้บูชากันเอง ย้อนหลังไปอีกนิด ข่าวผู้ร้ายแอบทุบประติมากรรมหินสลักที่ปราสาท เขาพนมรุ้ง...ความคืบหน้า ออกมาทำนองว่า มีใครสักพวกหนึ่ง...ไปทำพิธีบูชา บนบานขอ...กันไว้ คนอีกพวกได้ข่าว ก็แอบมาทำพิธีล้างอาถรรพณ์ ต่อด้วยการทุบ...นัยว่ากันไม่ให้คนพวกแรกขอได้ พวกแรก...หากจะว่าหลงบ้างมงาย พวกต่อมายิ่งหลง ยิ่งบ้ากันไปใหญ่ ประเด็นที่เป็นปัญหาสำหรับคนไทย ก็คือประติมากรรมหินสลักที่ถูกทุบไปนั้น บางส่วนก็เป็น ของจริง อายุเฉียดพันปีดั้งเดิมที่เหลืออยู่น้อยเต็มที บางส่วนก็เป็นของต่อเติมขึ้นใหม่ ว่ากันถึงราคา...ค่าเสียหาย...ไม่ว่าจะเป็นของเก่า ของใหม่ ก็คงไม่มากเท่า กับความเสียหายทางจิตใจ... ปี พ.ศ.ที่วิชาการก้าวหน้า...ถึงขนาดมนุษย์รู้จักทำฝนเทียม... ได้แล้ว มนุษย์พวกหนึ่งก็ยังล้าหลัง เชื่อสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ และไม่มีอะไรจะชวนให้เชื่อได้...อย่างน่าเป็นห่วงมาก แต่จะหลงนินทา ว่าคนพวกนี้โง่งมงาย ก็คงไม่ถนัดนัก กระบวนการแก้ปัญหา หาตัวคนร้ายที่เขาพนมรุ้ง ผมเห็นหน้าตาผู้หญิงที่เป็นคนทรง แล้วก็พอมอง ออกว่า เป็นชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนาธรรมดา ซึ่งมีปกติเชื่อเรื่องทำนองนี้อยู่บ้าง คนระดับรัฐมนตรีดีกรีแพทย์เชื่อเทวดาช้างไม้...เหนือขึ้นไประดับนายกฯ...ก็ยังไปอยู่ในพิธีไหว้ราหู อยู่ที่วัดไตรมิตร ยังไม่รวมรัฐมนตรี แม่ทัพนายกอง ที่มีข่าวไปกราบไหว้ ร่างทรงองค์เทพ...ที่โน่นที่นี่ ตั้งแต่ก่อน ปฏิวัติ หลังปฏิวัติ จนเริ่มมีเค้าว่า จะปฏิวัติกันรอบใหม่ เมื่อผู้คนทั้งบ้านเมืองเริ่มแต่คนระดับผู้นำไปถึงผู้ตาม ล้วนแต่เป็นยังงั้นไปหมด...อย่างนี้ ยามที่บ้านเมืองเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน...สารพัดสินค้าขึ้นราคา ค่ารถเมล์ เรือเมล์ ก็ขึ้นราคา จนคนยากคนจน จะกลั้นใจตายกันทั้งบ้านทั้งเมือง จะหันไปหวังพึ่งสติปัญญา...ความสามารถ...ของใคร...ที่พอจะเชื่อถือกันได้สักคน ก็จนใจ อ่อนโยนทางปัญญากันยกโขยงอย่างนี้ ทางเดียวของชาวบ้านก็คงเตรียมใจ
ตัวใครตัวมัน |
| กิเลน
ประลองเชิง |