คนบางแสน

 

ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์


ก้าวที่ 8 : ภารกิจของพระเยซูบนฝั่งทะเลคาลิลี


ทะเลสาบคาลิลี และหุบเขารายรอบ เป็นหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นดินแดนที่จัดว่าสวยงามที่สุดของอิสราเอล
เปรียบได้กันสวนเอเดน ณ แผ่นดิน และยังเป็นดินแดนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ทะเลสาบ ล้วนแต่สะท้อนชีวิตและคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า ที่ยังก้องอยู่ ณ ปัจจุบัน


ทะเลสาบคาลิลี อยู่ในหุบเขาจอร์แดน แคว้นคาลิลีตอนกลาง รูปทรงคล้ายพิณ
เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ทะเลสาบคาลิลีรับน้ำจากภูเขาและที่ราบสูงทางเหนือ
และระบายน้ำทางแม่น้ำจอร์แดนทางใต้ลงสู่ทะเลเดดซี  มีความกว้างใหญ่วัดโดยรอบได้ 55 ก.ม. ความยาว 22 กม.
กว้าง 12 กม. ลึกประมาณ 40 เมตร และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 210 เมตร


 บริเวณรอบๆ เป็นหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ 


ผืนดินเหมาะทำการเกษร จึงเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนมากมาย


น้ำใส และมีปลาชุกชุม  


ชายฝั่งมีทิวทัศน์สวยงาม
เหมาะเป็นแหล่งท่องเที่ยว


พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้าในแคว้นคาลิลีนี้ และมีเหตุการณ์ที่สำคัญมากมายที่มีบันทึกไว้
พระองค์ทรงเทศน์สอน และทำอัศจรรย์มากมายบริเวณบริเวณชายฝั่งทะเลแห่งนี้  รักษาคนไข้ และคนโรคเรื้อน  


พระองค์เลือกอัครสาวกชุดแรก เปโตร  และอันดรูว์  ยากอบ และยอห์น   (มธ. 4 :18-22)

 
ที่ชายฝั่งทะเลที่นี่ 
ทรงปราศรัยกับประชาชนจากเรือของเปโตร  (ลก.5:1-3)

 
ทรงเดินบนผิวน้ำเพื่อมาหาสานุศิษย์ในเรือ (มธ. 14:22–23) 
และครั้งหนึ่งพระองค์สั่งให้คลื่นลมสงบ  บรรดาสานุศิษย์แปลกใจพูดกันว่า 
“บุรุษท่านนี้เป็นใครกัน แม้ลมและทะเลยังเชื่อฟังเขา?” (มก. 4:35-41) 


และบนฝั่งทะเลแห่งนี้  พระองค์ประจักษ์มาหาสานุศิษย์ หลังจากกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว   
และทรงมอบเอกสิทธิ์ให้เปโตรปกครองพระศาสนจักร  
พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”  (ยน. 21:1-17) 


นอกจากชื่อทะเลคาลิลีแล้ว   ยังมีชื่ออื่นๆ  ที่ปรากฏในพระวรสาร  
นักบุญยอห์นเรียกว่าทะเลทิเบเรียส นักบุญลูกาเรียกทะเลสาบเยเนซาแร็ธ


Back to Mainpage