คนบางแสน

 

ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์


ก้าวที่ 30 : อินกาเร็ม บ้านเกิดของยอห์น บัปติสต์


Jerico
ในรัชสมัยของกษัตริย์เฮโรดผู้ปกครองแคว้นยูเดีย มีสมณะผู้หนึ่งชื่อเศคาริยาห์ มีภรรยาชื่อเอลีซาเบธ ทั้งสองเป็นคนชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำหนดทุกข้อของพระเจ้าโดยไม่มีที่ติแต่สามีภรรยาคู่นี้ไม่มีบุตร เพราะนางเอลีซาเบธเป็นหมัน และทั้งสองคนชรามากแล้ว

วันหนึ่ง เศคาริยาห์กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามเวรของตนอยู่ในพระวิหารทันใดนั้น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าปรากฏองค์ยืนอยู่เบื้องขวาของพระแท่นถวายกำยานเมื่อเศคาริยาห์ได้เห็นก็รู้สึกวุ่นวายใจและมีความกลัวอย่างมาก

แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่เขาว่า "เศคาริยาห์ อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่ายอห์นท่านจะมีความชื่นชมยินดีและคนจำนวนมากจะยินดี ที่เขาเกิดมาเพราะว่าเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า (ลก 1:5-13)

       
Jerico ภาพวาดเศคาริยาห์ตามแบบนิกายออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย (Russian icon of Zechariah) ถือม้วนกระดาษจารึกวรรคแรกของคำทำนายเบเนดิกตุส (วาดในศตวรรษที่ 18 ขณะนี้อยู่ที่ Kizhi Monastery, Russia).


เมื่อเทวดาคาเบรียลไปแจ้งข่าวแก่แม่พระที่นาซาแร็ธ เรื่องการรับเอากายของพระเจ้านั้น ท่านยังได้ แจ้งแก่พระนางว่า
“เดี๋ยวนี้ นางเอลีซาเบธ ญาติของท่านก็ได้ตั้งครรภ์กุมารคนหนึ่ง
แม้นางจะแก่ชรา และใครๆ ก็ว่าเป็นหมัน นางก็ตั้งครรภ์เข้าเดือนที่หกแล้ว
เหตุว่า ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า” (ลก 1 : 36-37)


 
  ในช่วงเดือนที่ 6 ที่นางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ พระนางมารีย์ ได้เดินทางมาเยี่ยมนางที่แคว้นยูเดีย
เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ ทันใดกุมารที่อยู่ในครรภ์ก็โลดเต้นยินดี
พระนางมารีย์ได้กล่าวคำสรรเสริญพระเจ้า ด้วยข้อความที่พระศาสนจักรคาทอลิกเรียกว่า บทมักญีฟีกัต (Magnificat) ที่ว่า
“วิญญาณข้าพเจ้าถวายสดุดีแด่พระเจ้า และจิตใจข้าพเจ้าโสมนัสยินดีในพระเจ้า ผู้ไถ่กู้ข้าพเจ้า .....” พระนางมารย์พักอยู่กับนางเอลีซาเบ็ธเป็นเวลา 3 เดือน (ลก 1:46-55)


Jerico พระคัมภี์ไม่ได้ระบุว่า บ้านของนางเอลีซาเบธ และปุโรหิตเศคาริยาห์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ของยอห์น บัปติสต์อยู่ที่ใด
แต่จากการบอกเล่า และมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า คือ หมู่บ้านอินกาเร็ม


Jerico ปัจจุบัน ชุมชนอินกาเร็ม (Ein Karem หรือ Ain Karim) อยู่ห่างจาก เยรูซาเล็มมาทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 8 ก.ม.


Jerico อินกาเร็ม เป็นชุมชนที่ร่มรื่น มีบรรยากาศน่าอยู่ ท่ามกลางหมู่ไม้มีวัดวาอารามหลายแห่ง ได้แก่
วัดแม่พระเสด็จเยี่ยมเยียน
(มุมขวาบนของภาพเห็นไกลๆ)
และ วัดนักบุญยอห์น บัปติสต์ (มุมล่างซ้ายของภาพ) ที่มีหอแหลมสูงเด่นเป็นสง่ากลางหมู่ไม้


Jerico 
วัดนักบุญยอห์น บัปติสต์ เป็นวัดของคณะฟรังซิสกัน ตั้งอยู่ในอารามนักบุญยอห์น บัปติสต์
วัดหลังแรก สร้างใน ศตวรรษที่ 5 ตรงจุดที่เชื่อว่าเป็นบ้านของนางเอลีซาเบธ และปุโรหิตเศคาริยาห์ ที่ยอห์น บัปติสต์ เกิด และขยายเพิ่มในสมัยครูเสด พวกอาหรับที่มายึดครองคเยใช้เป็นคอกม้า


Jerico คณะฟรังซิสกันมาสร้างใหม่ในช่วงราวปี 1950


Jerico ภายในวัด
นักบุญยอห์น บัปติสต์


Jerico ภาพวาดพระเยซูเจ้ารับพิธีล้างจากยอห์น บัปติสต์ขนาดใหญ่ประดับอยู่ภายในวัด


Jerico ส่วนที่น่าสนใจคือ ทางขวามือของพระแท่น มีบรรไดลงไปในถ้ำ เรียกว่า ถ้ำเบเนดิกตุส (Grotto of the Benedictus) เชื่อกันว่าเป็นที่ที่ยอห์น บัปติสต์ เกิด


Jerico ใต้พระแท่น มีแผ่นหินอ่อนรูปดาว และมีอักษรลาตินจารึกว่า HIC PRECURSOR DOMINI NATUS EST
แปลว่า ตรงนี้เป็นที่เกิดของผู้ที่มาก่อนพระเจ้า


Jerico บริเวณลานวัด บนกำแพงหิน มีแผ่นจารึกคำทำนายของเศคาริยาห์ ในวันที่ยอห์นรับศีลตัด
คือ บทเบเนดิกตุส (Benedictus) เป็นภาษาต่างๆ
(ลก 1:67-79)
คลิกดูบทเบเนดิกตุส 3 ภาษา


Jerico  วัดแม่พระเสด็จเยี่ยมเยียน สร้างบนเชิงลาดเขาหิน ร่มรื่นด้วยแมกไม้ เป็นวัดของคณะนักบวชฟรังซิสกันอีกวัดหนึ่ง ที่สร้างถวายแม่พระ สร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1938 ถึง 1955 บนสถานที่ที่เป็นซากวัดเก่า ศตวรรษที่ 5 สมัยไบเซนไทน์ และมีร่องรอยวัดสมัยครูเสด ในศตวรรษที่ 12 ด้วย


Jerico ที่น่าสนใจ วัดนี้มีภาพหินโมเสคเกี่ยวกับการ เดินทางของแม่พระจากนาซาแร็ธมายังแคว้นยูเดีย ประดิษฐานไว้ที่แผงหน้าจั่วหน้าวัด


Jerico และยังมีแผ่นหินจารึกบทมักญีฟีกัต เป็นภาษาต่างๆ 41 ภาษา ติดไว้บนกำแพงลานวัดด้วย

 
Jerico วัดนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า วัดมักญีฟีกัต (Church of the Magnificat) 

คลิกดูบทมักญีฟีกัต 3 ภาษา


Jerico ภายในวัด มีภาพวาดสวยงามมาก


Jerico พระแท่นและภาพวาดเกี่ยวกับแม่พระ


Jerico ถ้าและบ่อน้ำที่นางเอลีซาเบธนำยอห์น บัปติสต์ มาซ่อน จึงรอดจากถูกกษัตริย์เฮร็อดฆ่า


Back to Mainpage